#ReadersGarden เล่มที่ 67
หากคุณกำลังหลงทางชีวิต หรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไร หนังสือเธอจะไม่หลงทางบนถนนที่สร้างเองจะเป็นเซฟโซนที่อบอุ่นใจให้กับคุณ มาแวะพักผ่อนที่จุดพักพิงนี้ก่อน แล้วค่อยออกเดินทางกันต่อนะ
นี่เป็นหนังสือแนวบทกวีเล่มแรกที่ซิสอ่านเลยค่ะ ชอบตั้งแต่ชื่อเรื่องและหน้าปก ภาพวาดสีสันสดใสโดยคุณ Blurdepeinture ดูแล้วฮีลใจมาก ประกอบกับเห็นโพสต์ข้อความจากหนังสือเล่มนี้อยู่บ่อยๆ โดนใจทุกประโยค เลยลองซื้อมาอ่าน ตอนนี้เล่มนี้กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของหัวใจแล้วค่ะ
เพื่อนผู้เข้าอกเข้าใจ
ซิสเพิ่งจะเคยอ่านผลงานของคุณวิน นิมมานวรวุฒิ (โรแมนติกร้าย) เป็นครั้งแรก แล้วเหมือนกับที่ใครหลายคนเคยกล่าวไว้ว่า “เขียนเหมือนมานั่งอยู่ในใจ” อ่านไปพยักหน้าไป ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ ติ๊กถูก ติ๊กถูก หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนเพื่อนที่เข้าอกเข้าใจถึงคำถามที่เราถามตัวเองเป็นครั้งคราวว่า
“ความหมายของชีวิตคืออะไร?”
“เราควรจะใช้ชีวิตอย่างไร?”
“การเป็นมนุษย์ต้องเหนื่อยขนาดนี้เลยหรอ?”
คุณวินยังถ่ายทอดความรู้สึกสับสนที่พวกเราต่างเก็บซ่อนไว้ในใจ ไม่แสดงให้ใครเห็นเพราะไม่อยากแสดงด้านอ่อนแอหรือกลัวจะถูกมองว่าแปลก
“บางวันฉันรู้สึกเหมือนเป็นกัปตันเรือในชุดสีชมพู ขับเคลื่อนเรือแห่งชีวิตไปด้วยความมั่นใจ… แต่บางวันฉันก็รู้สึกเหมือนแมวน้อยสีเทาผู้หลงทางข้างถนนในวันฝนพรำ เปียกปอน เหน็บหนาว และไร้ที่พึ่งพิง”
วิน นิมมานวรวุฒิ (โรแมนติกร้าย)
คำพูดนี้ทำให้ซิสนึกถึงถ้อยคำที่เคยเขียนไว้ในไดอารี่ว่า “บางเช้าฉันตื่นมาและหลงรักคนที่อยู่ในกระจก แต่บางเช้าฉันอยากจะทุบกระจกทั้งห้องให้แตก จะได้ไม่ต้องเห็นเงาสะท้อนที่น่าสมเพช”
ความรู้สึกสับสนที่สลับไปสลับมาระหว่างรักและเกลียดตัวเอง มั่นใจและไม่มั่นใจ มีความหวังและสิ้นหวัง สลับกันไปมาทุกวันแบบนี้ การได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่เราที่รู้สึกแบบนี้อยู่คนเดียว มันก็ทำให้โดดเดี่ยวน้อยลง หมกหมุ่นกับมันน้อยลงและเดินหน้าต่อไปได้
เพื่อนผู้มอบรอยยิ้ม
หลายบทอ่านแล้วก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว รู้สึกอิ่มเอมใจ โดยเฉพาะบทที่คุณวินเล่าถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตอย่างการไปเรียนเต้น
“ฉันรู้สึกเป็นอิสระอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน… การเต้นทำให้ฉันได้เข้าใจในความเป็นผู้หญิงและผู้ชายที่อยู่ในตัวเอง ทำให้ฉันค่อยๆ เรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองในแบบที่เป็น” ในฐานะคนที่รักการเต้นและเสียงดนตรี เราเต้นด้วยความรู้สึกนี้เลย รู้สึกเป็นอิสระ เรียนรู้ด้านใหม่ๆ ของร่างกาย ยอมรับตัวเองในแบบที่เป็น และค่อยๆ รักตัวเองมากขึ้น
“หากชีวิตเป็นฟลอร์เต้นรำ ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะเต้นสวยแค่ไหน หรือจะมีคู่เต้นตลอดไปหรือไม่ เพราะสิ่งสำคัญคือความรู้สึกในขณะที่เคลื่อนไหวร่างกายแล้วสัมผัสได้ถึงอิสรภาพ การปลดปล่อยตัวเองในอดีตและการกล้าที่จะยิ้มจากใจให้ตัวเองในกระจกอีกครั้ง ไม่ว่าหัวใจจะเคยแตกสลายมาแล้วกี่ครั้งต่างหาก”
วิน นิมมานวรวุฒิ (โรแมนติกร้าย)
ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกอ่อนโยนและน่ารักมากขึ้น รวมถึงอยากจะส่งต่อความอ่อนโยนนี้ให้กับคนรอบข้าง
เพื่อนนักกวีผู้มองเห็นความงดงาม
“หากดวงตาของกวีมีไว้เพื่อมองหาความงาม การมองเห็นเสน่ห์ที่แตกต่างหลากหลายของผู้คนคงเป็นความโรแมนติกไม่น้อย บทกวีของฉันเขียนขึ้นเพื่อบันทึกโมงยามที่งดงามและอ่อนไหวเหล่านั้น”
วิน นิมมานวรวุฒิ (โรแมนติกร้าย)
นอกจากหนังสือเล่มนี้จะเป็นที่พักพิงใจแล้ว ยังตกหลุมรักภาษาอันสวยงามตลอดทั้งเล่ม อ่านแล้วว้าว! นักกวีเป็นแบบนี้เองหรือ สามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเป็นประโยคสั้น กระชับ ใช้ภาษาเรียบง่ายแต่สวยงามและลึกซึ้ง ทั้งชวนให้คิดตามและปลอบประโลมใจ
ซื้อหนังสือ: นายอินทร์, SE-ED, Kinokuniya
สุดท้ายนี้แม้เราจะยังไม่พบเป้าหมายชีวิต หรือควรจะใช้ชีวิตอย่างไรดี แต่มันไม่เป็นไรหรอก เราไม่ได้กำลังหลงทางอยู่บนถนนชีวิตเพียงลำพัง ดังนั้นออกไปใช้ชีวิต ทำสิ่งที่อยากทำ สั่งสมประสบการณ์ ค่อยๆ สร้างเส้นทางชีวิตและสร้างตัวตนที่เราอยากเป็น เพราะ ‘เธอจะไม่หลงทางบนถนนที่สร้างเอง’