#ReadersGarden เล่มที่ 9
เลือด หยาดเหงื่อ น้ำตาและเดเมียน
Blood Sweat & Tears ยังคงเป็นหนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดตลอดกาลของวง BTS สำหรับซิส เพลงเพราะ สนุกสนาน ท่าเต้นเท่ และ MV เล่าเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวรรณกรรมเดเมียน (Demian) ของเฮอร์มานน์ เฮสเส (Hermann Hesse) นักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ปี ค.ศ. 1946
“เลือด หยาดเหงื่อ น้ำตา ร่างกายและจิตวิญญาณของผม ก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่ามันเป็นของคุณ… ผิวขาวนวลเนียน หวานยิ่งกว่าความหวานใดๆ… แท้จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของปีศาจ” คำแปลเนื้อเพลงส่วนหนึ่งจากท่อนร้องของพี่ยุนกิกับนัมจุนที่กล่าวถึงการเสพติดความเจ็บปวดจากความรัก
BTS เคยให้สัมภาษณ์ว่าอัลบั้ม Wings เป็นเรื่องราวของการก้าวข้ามผ่านวัย (coming of age) และสิ่งยั่วยวนอันหอมหวานที่พวกเราต้องเผชิญเพื่อเติบโตขึ้น ความรักอันเจ็บปวดในเพลง Blood Sweat & Tears ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตเช่นกัน
“เขาก็เป็นมารมาล่อลวงผมไม่ต่างกัน เขาเป็นตัวเชื่อมกับโลกที่สอง โลกชั่วร้ายที่ผมไม่ต้องการจะเข้าไปเกี่ยวข้องอีกแล้ว”
– ถ้อยคำจากหนังสือเดเมียน (Demian) ที่นัมจุนกล่าวใน Blood Sweat & Tears MV
(He too was a tempter; he, too, was a link to the second, the evil world with which I no longer wanted to have anything to do)
เรื่องราวการเติบโตของหนุ่มๆ บังทันก็คล้ายกับสิ่งที่เอมิล ซินแคลร์ ตัวเอกของวรรณกรรมเดเมียนเผชิญ เด็กชายผู้ถูกเลี้ยงดูมาในโลกที่หนึ่งที่บริสุทธิ์ดีงาม เมื่อโตขึ้นกลับถูกยั่วยวนเข้าไปในโลกที่สองที่ชั่วร้ายและเสพติดมัน โดยมีแม็กซ์ เดเมียน เพื่อนรักเป็นผู้นำทาง
เรื่องย่อเดเมียน
เดเมียนเป็นเรื่องราวของเอมิล ซินแคลร์ เด็กชายที่เติบโตมาในครอบครัวเพียบพร้อม อบอุ่น ร่ำรวย พ่อแม่รักและดูแลเขาเป็นอย่างดี ซึ่งซินแคลร์เรียกว่า ‘โลกสว่าง’ ส่วนอีกโลกที่ซินแคลร์เฝ้าสังเกตอยู่ห่างๆ ที่มีคนรับใช้ของเขาทะเลาะกับพ่อค้าขายผัก มีการลักขโมยหรือฆาตกรรมบนท้องถนน ซินแคลร์เรียกมันว่า ‘โลกมืด’
ซินแคลร์เติบโตมาโดยเชื่อว่าโลกถูกแบ่งออกเป็นสองใบคือ โลกสว่างและโลกมืด ซึ่งเขาพยายามจะใช้ชีวิตอยู่ในศีลธรรมตามพ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างอันดี แต่ยิ่งเขาเติบโต สัญชาตญาณของเด็กหนุ่มยิ่งอยากรู้อยากลองในเรื่องอันตราย เขาถล่ำเข้าไปในโลกมืดมากขึ้นเรื่อยๆ เขาโดดไปมาระหว่างโลกสว่างกับโลกมืด จนท้อแท้และสับสนในเส้นทางชีวิต
โลกสว่างและโลกมืดของซินแคลร์
ซินแคลร์ทำให้เรานึกถึงตัวเอง โดยเฉพาะวัยเด็กที่มองว่าโลกนี้มีแค่สีขาวกับสีดำ แน่นอนว่าทุกคนถูกสอนให้อยู่ในโลกสีขาวของบัณฑิต จงอยู่ให้ห่างจากโลกสีดำของคนพาล ความไร้เดียงสาทำให้เราคิดว่าเราคือผ้าขาวตลอดไป
แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลีกเลี่ยงโลกสีดำ จากข่าวในโลกออนไลน์ จากคุณครูที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตที่โรงเรียน จากเพื่อนบ้านขี้เมาอาละวาด หรือแม้แต่จากเสียงทะเลาะในบ้านเราเอง
การซึมซับโลกสีดำจากคนรอบตัว ส่งผลให้พวกเราเริ่มหยดหมึกสีดำด้วยตัวเอง เริ่มจากคำโกหกเด็กๆ เหมือนซินแคลร์ ทะเลาะกับพี่น้อง ลอกการบ้าน นินทาคนที่ไม่ชอบ ทำลายข้าวของเมื่อไม่ได้ดั่งใจ หยดสีดำเล็กๆ ที่คิดว่าไม่เป็นไรหรอก ค่อยๆ สะสมและขยายกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับซินแคลร์ เมื่อรู้ตัวว่าได้ไถลลงไปสู่โลกมืดแล้ว ก็อยากจะถอยกลับมาสู่โลกสว่างอีกครั้ง แต่ไม่นานก็หลงไปในโลกมืดอีก กระโดดกลับไปกลับมา เริ่มสับสนและผิดหวังในตัวเอง การเกลียดปีศาจของเรา ทำให้เราเกลียดตัวเองด้วย
แม็กซ์ เดเมียนเป็นคนสำคัญที่ทำให้เข้าใจว่า โลกสว่างกับโลกมืดไม่ได้แยกออกจากกัน ถูกกับผิด ดีกับชั่ว มนุษย์ทุกคนล้วนมีทั้งสองด้านผสมปนเป มันคือสมดุลของธรรมชาติ การที่เรารู้จักทั้งสองด้านในตัวเองและยอมรับมัน นั่นแหละถึงจะรักตัวเองได้อย่างแท้จริง #LoveYourself และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระอย่างที่ต้องการ
“แสวงหาจนพบตัวตนแท้ของตน นั่นแหละบุคคลจึงจะอิสระจริง”
– บันทึกการอ่านเดเมียนของผู้แปล สดใส
ปีนี้เดเมียนอายุครบ 101 ปีแล้ว เป็นวรรณกรรมคลาสสิกที่เข้าถึงคนได้ทุกยุคสมัย คุณสดใสผู้แปลแปลดี ใช้ภาษาสวยงามมาก แต่เราไม่ค่อยคุ้นกับศัพท์โดยเฉพาะเรื่องศาสนาเลยทำให้รู้สึกว่า เดเมียนเป็นหนังสือดีที่อ่านยาก บางบทต้องอ่านซ้ำสามสี่ครั้ง แต่ละรอบก็ตีความได้ไม่เหมือนเดิม นี่แหละคือความสนุกของเดเมียน
สรุปแล้วเดเมียนเป็นการขยายความคำว่า “มนุษย์ทุกคนล้วนเป็นสีเทา แต่ขึ้นอยู่ว่าเราจะเป็นเทาเฉดไหน” การที่เรารู้จักเทวดากับซาตานในตัวเองและยอมรับมัน เราถึงจะรักตัวเองได้และเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระ
ซื้อหนังสือ: นายอินทร์, SE-ED, Kinokuniya