พักใจไปไต่หลังมังกร: บันทึกปีนเขา Dragon’s Back ที่ฮ่องกง

0 Shares
0
0
0
0
0

จะพูดว่า ‘ปีนเขา’ ก็อาจจะดูท้าทายเกินไปสักหน่อยสำหรับเส้นทางเดินป่ายอดนิยมของฮ่องกงอย่าง Dragon’s Back หรือ หลังมังกร 🐉⛰️  เพราะไม่ต้องปีนป่าย มือไม่เปื้อนดิน (ไม่นับสะดุดล้มไปครั้งหนึ่ง…) เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากไต่เขาในต่างประเทศสักครั้ง

แล้วเรามาอยู่บนหลังมังกรนี้ได้ยังไง?

หลังจากถูกพายุงานถาโถมใส่ครั้งใหญ่จากการย้ายงาน (อีกครั้ง) ถึงแม้งานใหม่จะสนุกมีสีสันและทำให้เรากลับมาเป็นมนุษย์โปรดักทีฟอีกครั้ง แต่ก็มากเกินไปหน่อยจนอยากจะหนีไปพักสมอง ใช้ร่างกายอย่างเดียว สาวสายธรณีวิทยาอย่างเราก็หนีไม่พ้นความอยากไปปีนเขาในประเทศใหม่ๆ แต่เพราะไม่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้านาน เลยเลือกประเทศยอดนิยมอย่างฮ่องกง

ถ้าคุณค้นหาคำว่า ‘ฮ่องกง ปีนเขา’ คุณจะพบเส้นทางปีนเขาที่น่าสนุกเพียบ รวมถึง UNESCO Geopark สวยๆ ในหลายเกาะ ด้วยความที่ฮ่องกงตั้งอยู่บนเกาะที่เกิดการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่ในทะเลจีนใต้เมื่อ 140 ล้านปีก่อน จึงมีลักษณะทางธรณีวิทยาเด่นชัดให้เราไปสำรวจมากมาย

สุดท้ายเราตัดสินใจเลือกเส้นทาง Dragon’s Back เพราะชื่อมันเท่นี่นา! แถมเป็นเส้นทางยอดนิยมที่หาข้อมูลได้ง่าย รวมถึงอ่านเจอบันทึกปีนเขาอ้ายมาผิดทาง ไต่เขาตาม พี่สี ชายแปลกหน้า พิชิตหลังมังกร (Dragon’s Back) เส้นทางเดินป่ายอดนิยมของฮ่องกง ของคุณชยพล ทองสวัสดิ์ อ่านไปก็ขำไปจนต้องขอไปตามรอย

การเตรียมตัวไปปีนเขาคนเดียว

Dragon's Back ฮ่องกง

หนึ่งวันก่อนไปปีนเขา เราเตรียมเสบียงเป็นขนมปังไส้ครีมชิ้นโตและน้ำดื่มเกลือแร่ Pocari Sweat 2 ขวดจากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ โรงแรม (Pocari Sweat saves my life! ดื่มแล้วสดชื่นมาก!) เรายังกระดกยาแก้ปวดและเข้านอนตั้งแต่ 2 ทุ่มเพื่อฟื้นฟูร่างกายจากการเดินทั้งวันที่สวนสนุก Ocean Park ในวันแรก

แม้จะตื่นมาสดชื่น แต่ก็ยังมีอาการปวดเท้าจากการเดินไม่หยุดในวันแรก ที่หนักกว่าคืออาการปวดหลังจากการนั่งพิงเบาะแข็งๆ เกือบ 3 ชั่วโมงของสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ (เข็ดแล้ว)

นอกจากอาการปวด ทุกอย่างค่อนข้างเป็นใจ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง พร้อมสำหรับการผจญภัยแล้ว!

การปีนเขาคนเดียวรอบนี้สบายใจมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องหลงป่าเลย อย่างที่เกริ่นไปว่า Dragon’s Back เป็นเส้นทางปีนเขายอดนิยมของฮ่องกง คนเยอะมาก! ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมเขาตลอดทาง คลาดกับคนข้างหน้า เดี๋ยวสักพักคนข้างหลังก็ตามมาเอง มีป้ายบอกทางทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษตลอดทาง สัญญาณมือถือดี เปิด Google Maps ก็ได้

เส้นทางปีนเขาก็ง่าย (แต่ไม่ใช่ไม่เหนื่อยนะ) ทำเส้นทางไว้อย่างดี ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้ค้ำเดินป่า ไม่มีปีนป่าย รองเท้าผ้าใบธรรมดาก็เดินได้ ไม่ลื่น แต่ถ้าพื้นรองเท้าไม่ดี มีเจ็บเท้าแน่นอน

ระหว่างทางเราเจอทั้งผู้สูงวัย เด็กๆ วัยประถม ไปจนถึงน้องหมาตัวน้อย แต่สองกลุ่มหลังนี่ก็ขอตั้ง question mark ตัวใหญ่ๆ ว่ามาเองหรือน้องโดนบังคับมา ฮ่าๆ

วิธีเดินทางไปจุดเริ่มต้นปีนเขา Dragon’s Back

Dragon's Back ฮ่องกง

ถ้าคุณใช้รถสาธารณะ เรามาเริ่มต้นกันที่ MTR สถานี Shau Kei Wan กันค่ะ ออกทางออก A3 แล้วจะเจอท่ารถบัสตรงหน้าเลย จากนั้นนั่งรถบัสสาย 9 รถจะออกทุก 10-20 นาที แล้วแต่ช่วงเวลาและจำนวนคน ตอนเราไปมีคนมาต่อคิวขึ้นกันเยอะแล้ว พอเห็นคนแต่งตัวมาเดินป่า ก็ใจชื้นขึ้นหน่อย มีเพื่อนแล้วเรา 😂

รถบัสราคา 6 HKD ใช้บัตร Octopus จ่าย เราเลือกนั่งบนชั้น 2 ของรถบัสเพื่อจะได้ดูวิวชัดๆ และแอบเนียนตามไปนั่งข้างหลังคู่รักนักเดินป่า รถบัสแล่นไปเรื่อยๆ จนวิวทิวทัศทน์เริ่มเปลี่ยนจากป่าคอนกรีตเป็นป่าไม้เขียวขจี ตัดกับสีฟ้าของทะเลที่เห็นอยู่ลิบๆ ตื่นเต้นแล้ว!

นั่งไปประมาณ 30 นาทีก็ถึงจุดเริ่มต้นปีนเขา Dragon’s Back แล้ว โดยมี 2 ป้ายให้เลือกลง ซึ่งทั้ง 2 จุดเชื่อมถึงกันค่ะ

  1. ป้ายแรก Cape Collinson ใกล้ๆ กับเรือนจำ Tai Tam Gap  
  2. ป้ายที่สอง To Tei Wan จุดเริ่มต้นยอดนิยม

จากบทความ [CR] ติสกระทันหัน HK “DRAGON’S BACK” เอาเรื่องแย่ๆไปทิ้งที่หลังมังกร ของคุณ Dady Bare ว่าหากต้องการเริ่มจากจุดคนไม่พลุกพล่าน แนะนำให้เริ่มจาก Cape Collinson ซึ่งคุณ Dady Bare ก็เลือกเริ่มจากจุดนี้ เขียนบรรยายเส้นทางไว้ละเอียดมากค่ะ ไปตามรอยได้เลย

ส่วนนักท่องเที่ยวสาวหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างเรา ขอเริ่มต้นที่จุด To Tei Wan ตามคู่รักนักปีนเขาค่ะ (จะฮามากถ้าพวกเขาไม่ได้ไปปีนเขา แต่ไปลงป้ายสุดท้ายเพื่อไปชายหาด โชคดีที่ทริปนี้ยังไม่ตลกขนาดนั้น ฮ่าๆ)

หลังจากเรามาถึงป้าย To Tei Wan เราจะพบป้ายบอกทาง Dragon’s Back ให้อุ่นใจว่ามาถูกแล้ว! เวลคัมเหล่าผู้ท้าทาย หึหึ

ที่จุดเริ่มต้นมีห้องน้ำบริการ เป็นตู้ห้องน้ำขนาดเล็ก ดูจากภายนอกแล้ว เดาว่าข้างในคงจะไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ แนะนำให้เตรียมตัวจากโรงแรมหรือสถานี MTR มาก่อนดีกว่า จะได้พร้อมลุยอย่างสบายใจ

เส้นทาง Dragon’s Back และจุดพักชมวิว

08.30 น. ก้าวแรกสู่หลังมังกร

จากป้ายรถเมล์ To Tei Wan ไปถึงชายหาด Big Wave Bay ระยะทางประมาณ 8.5 กิโลเมตร ชาวเน็ตบอกว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง มาเดากันว่าชาวคอนเทนต์ปวดหลังอย่างเรา เดินไป ถ่ายรูปไป หอบไป จะใช้เวลากี่ชั่วโมง และมาดูกันว่ามีจุดชมวิวเช็คพอยต์ตรงไหนบ้าง

จุดชมวิวแรก: มังกรส่องทะเล

Dragon's Back ฮ่องกง

หลังจากไต่ขึ้นเนินมาเรื่อยๆ มาเกือบ 10 นาทีในสภาพเหงื่อตก โดยคู่รักนักปีนเขาแซงหน้าไปไกลแล้ว เราก็เจอจุดชมวิวแรก นี่เป็นจุดแรกที่มองเห็นทะเลจากบนเขา จุดนี้ไม่มีชื่อเรียกเฉพาะ เลยขอให้ ChatGPT ตั้งชื่อให้ กลายมาเป็นจุดชมวิว ‘มังกรส่องทะเล’ สื่อความหมายได้ตรงมาก

จุดปิกนิก

หลังจากผ่านจุดแรกไปไม่ไกล จะเจอป้ายบอกทางว่า Picnic Site เป็นทางแยกจากเส้นทางปีนเขาหลักค่ะ คนส่วนใหญ่จะเดินผ่านจุดนี้ไปเลย แต่ซิสลองแวะเข้าไปดูสักหน่อย ไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงจุดปิกนิกแล้ว มีโต๊ะและม้านั่ง เหมาะสำหรับนั่งพักทานข้าว พักขา ขณะที่ชมวิวภูเขาและทะเลไปด้วย ซิสเองก็แวะพักทานขนมปังเป็นข้าวเช้าที่นี่แหละ

ที่นี่ไม่มีถังขยะ ถ้าพกอาหารมาทานให้เก็บขยะกลับไปทิ้งข้างล่างด้วยนะคะ 

ยอดเขาหลังมังกร

หลังจากผ่านจุดปิกนิกมาแล้ว เราจะเข้าสู่เส้นทางหลัก ระหว่างทางนี้ไม่มีจุดให้แวะถ่ายรูปเป็นพิเศษเลย สองข้างทางเป็นป่า และเส้นทางขึ้น ขึ้น และขึ้น!

ปวดทั้งน่อง ปวดทั้งใจ เพราะระหว่างทางเจอแต่คนมาเป็นคู่หรือมากันเป็นแก็ง คู่รักจับมือกันเดินกระหนุงกระหนิง แก็งเพื่อนช่วยกันพยุง โอ้ย 🥲 ยิ่งใกล้เที่ยง ยิ่งร้อน ยิ่งเหนื่อย ยิ่งฟุ้งซ่าน งอแงอยากกลับบ้าน ‘ฉันมาทำอะไรที่นี่ 😂’ 

แต่งอแงได้ไม่นาน พอใกล้ถึงยอดเขา ก็เริ่มรู้สึกถึงแรงลมที่ปะทะเข้าหน้า พร้อมกับวิวทะเลสีฟ้าที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นมา ความเหนื่อย ความเหงาหายไปในพริบตา

“มาถึงแล้ว! หลังมังกร!” 

Dragon's Back ฮ่องกง

วิว 360 องศาสวยมาก ทั้งความเขียวขจีของต้นไม้ สีฟ้าสบายตาของท้องทะเลและท้องฟ้า ลมเย็นๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น เหมือนนั่งอยู่บนหลังมังกรที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในอากาศ

ลมแรงถึงขนาดที่ตั้งขาตั้งกล้องไม่ได้เลยค่ะ กล้องโดรนไม่ต้องพูดถึง เราทำโดรนปลิวตกพุ่มไม้ไปรอบหนึ่ง ขอบคุณท่านเทพเจ้ามังกรที่ไม่พัดโดรนที่ยังผ่อนไม่หมดตกเขาเอาไปเป็นของเซ่นไหว้ ฮ่าๆ

จากจุดเริ่มต้นไปยังยอดเขา สามารถทำได้ในเวลาแค่ 30 นาทีตามที่ป้ายบอกทางระบุไว้ แต่สำหรับสายคอนเทนต์อย่างเราที่ถ่ายรูปและแวะกินข้าวด้วย ใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง!

หลังจากที่ถึงจุดชมวิวบนยอดเขาหลังมังกรแล้ว ถ้าหันหน้าออกทะเล เราสามารถเลือกเส้นทางเดินต่อไปได้ 2 ทางค่ะ

  • ทางซ้าย: ไปชายหาด Big Wave Bay
  • ทางขวา: สำรวจยอดเขา เหมือนว่าไม่มีทางลง เพราะเห็นคนที่เดินไปทางนี้ ก็ต้องเดินกลับมาทางซ้ายอยู่ดี รวมถึงจากบทความของคุณชยพล คิดว่าเขาน่าจะเดินผิดทางตามพี่สีไปทางนี้จนสุดท้ายต้องย้อนกลับไปทางซ้ายอยู่ดี

ระหว่งที่ตั้งใจจะเดินต่อไปชายหาด Big Wave Bay อาการปวดหลัง ปวดเท้าก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอป้ายที่เขียนว่า

  • ⬅️ (ทางที่กำลังมุ่งหน้าไป) Tai Tam Gap: ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
  • ➡️ (ย้อนกลับไป) To Tei Wan: ใช้เวลา 30 นาที

หลังจากพิจารณาสังขารแล้ว กระดูกสันหลังบอกพอก่อน เราเลยตัดสินใจย้อนกลับเส้นทางเดิมเพื่อลงไปจุดเริ่มต้นที่ป้ายรถเมล์ To Tei Wan แล้วนั่งรถเมล์ไปชายหาด Big Wave Bay แทนค่ะ

เราใช้เวลาเดินลงเขา 30 นาที กลับมาถึงจุดเริ่มต้นในสภาพหน้าซีดจากอากาศร้อน ระหว่างทางก็สวนกับนักผจญภัยที่มาปีนเขากันอย่างไม่ขาดสาย มากันทีละกลุ่ม 10-30 คน ประหนึ่งทัศนศึกษา

ถึงจะพอรู้ว่าความหนาแน่นของประชากรในฮ่องกงนั้นเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่แน่นยันบนเขาเลยหรอคะ!?

ชายหาด Big Wave Bay

หลังจากโบกมือลาหลังมังกร 👋 เรานั่งรถเมล์ต่อไปประมาณ 5 นาทีเพื่อไปลงป้าย Big Wave Bay Beach เพื่อดูชายหาดและทะเลฮ่องกงสักครั้ง

Dragon's Back ฮ่องกง

ที่นี่เป็นชายหาดเล็กๆ อาจเพราะเป็นช่วงเที่ยง คนเลยน้อย สงบ มีคนมาอาบแดดและเล่นน้ำประปราย ถ้าเป็นช่วงเย็นๆ คงจะคึกคักกว่านี้ คลื่นที่นี่แรงมาก มีคนถือกระดานโต้คลื่นมากันเพียบ มีจุดให้ปีนเขาต่ออีกด้วย รวมถึงจุดให้ชมหินแกะสลักโบราณที่ชื่อว่า Rock Carving

หลังจากเอาเท้าแตะทรายพอเป็นพิธี เราก็เดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์เดิม แล้วนั่งรถเมล์กลับเข้าเมืองไปลง MTR ที่สถานี Shau Kei Wan ค่ะ

⋆.˚ ᡣ𐭩 .𖥔˚

สรุปแล้ว ถ้าใครอยากไปปีนเขา เดินป่าในต่างประเทศสักครั้งแบบมือใหม่ เส้นทางง่าย ปลอดภัย เดินทางสะดวก แนะนำ Dragon’s Back ที่ฮ่องกงเลย!

0 Shares
You May Also Like
รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ Singapore Cable Car_1

รีวิวเที่ยว Singapore Cable Car : นั่งกระเช้าลอยฟ้าชมภูเขา ทะเล และเกาะเซนโตซ่า

เก็บภาพความงดงามของสิงคโปร์และเกาะเซนโตซ่าจากความสูง 100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลด้วยกระเช้าลอยฟ้าสิงคโปร์ (Singapore Cable Car)
รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ Casino

รีวิว Resorts World Sentosa Casino : เที่ยวคาสิโนสิงคโปร์ ฉบับมือใหม่หัดเล่น

เปิดประสบการณ์เข้าคาสิโนเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์ ทดสอบดวงเล่นตู้สล็อต มาดูกันว่าดวงมือใหม่หัดเล่นจะเป็นยังไง
รีวิวเที่ยวสิงคโปร์

รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 12 ที่ในงบ 15,000 บาท (ฉบับปี 2022)

ออกเดินทาง~ พาเที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรกหลากหลายมู้ด ทั้งสวนสนุก, ผจญภัยป่าดงดิบใจกลางเมือง, ชมสวนดอกไม้, ชมวิวสิงคโปร์จากมุมสูงและท่องพิพิธภัณฑ์
รีวิวเที่ยวมาเลเซีย เก็นติ้ง กัวลาลัมเปอร์

ตะลุยเก็นติ้งและมุมฮิต IG ในกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย (ฉบับ 2023)

รีวิวเที่ยวเก็นติ้ง (Genting Highlands) สถานบันเทิงเริงร่ามีครบทั้งสวนสนุก คาสิโน กระเช้าลอยฟ้าและห้างบนเขา พร้อมเที่ยวมุมฮิต IG ในกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) มาเลเซีย
LUNA The Immersive Musical Experience

LUNA The Immersive Musical Experience : ละครเพลงที่ผู้ชมเป็นผู้เลือกเส้นทาง

สวมบทนักผจญภัยแล้วไปร้องเล่นเต้นรำกับ LUNA: The Immersive Musical Experience กัน! ละครเพลงที่ผู้ชมพูดคุยกับตัวละครและเลือกเส้นทางได้เอง
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น เมืองยูฟุอิน (Yufuin)

คริสต์มาสนี้ที่เมืองยูฟุอิน (Yufuin) หมู่บ้านเทพนิยายในหุบเขา

พาชมเมืองยูฟุอิน ครึ่งวันก็เที่ยวได้! ชมเมืองวินเทจสไตล์ยุโรป Yufuin Floral Village ทะเลสาบคินรินและนั่งรถไฟสายธรรมชาติ Yufuin no Mori