#ReadersGarden เล่มที่ 89
นิทานเรื่อง เจ้าชายกบ เป็นที่รู้จักกันดีในวัยเด็ก เจ้าหญิงผู้มุ่งหวังจะได้พบเจ้าชายในฝัน ต้องเผชิญหน้ากับ เจ้ากบน่าเกลียด แต่เมื่อเธอตัดสินใจจุมพิตกบตัวนั้น กบก็กลายร่างเป็นเจ้าชายรูปงาม และเรื่องราวจบลงอย่างมีความสุข
แม้เราจะยังรู้สึกกังขากับบทของนิทาน แต่ การเผชิญหน้ากับอุปสรรคเพื่อเปิดทางสู่ชีวิตที่ดีกว่า ของเจ้าหญิงก็กลายมาเป็นแนวคิดของหนังสือจิตวิทยาสุดคลาสสิกอย่าง จูบกบตัวนั้นซะ โดยสองพ่อลูก ไบรอัน เทรซี่ และคริสติน่า เทรซี สเตน โดยคุณพ่ออย่างไบรอันเป็นนักเขียนและนักพูดด้านความเร็จ ส่วนลูกสาวอย่างคริสติน่าเป็นนักจิตวิทยา พวกเขานำเสนอวิธีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของเราไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยคอนเซปต์จากนิทาน…
เปลี่ยนเจ้ากบน่าเกลียด (ทัศนคติแง่ลบ) ให้กลายเป็นเจ้าชายรูปงาม (ชีวิตในฝัน)
หนังสือเล่มบาง 159 หน้า 12 บท ขอสรุปออกมาเป็น 4 ขั้นตอนปรับทัศนคติให้ชีวิตดีขึ้นดังนี้ค่ะ:
1. ความจริง 7 ประการ: ดึงคนที่ดีที่สุดในตัวคุณออกมา
หนังสือเริ่มต้นด้วยการเตือนให้ตระหนักว่า เรามีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดในการสร้างชีวิตที่ดีขึ้น เพียงแต่เราต้องปลดล็อกข้อจำกัดที่เราวางไว้ในใจเอง โดยความจริง 7 ประการที่เปรียบเสมือนคาถาปลุกใจ ได้แก่:
- คุณเป็นคนดีและยอดเยี่ยม สิ่งนี้ไม่สามารถวัดออกมาเป็นตัวเลขได้
- คุณมีความสำคัญ และไม่มีอะไรมีความหมายเว้นเสียแต่คุณจะให้ความสำคัญกับมันเอง
- คุณมีศักยภาพไร้ขีดจำกัดในการสร้างชีวิตอย่างที่ใจปรารถนา
- คุณสร้างโลกของตัวเองได้ผ่านความคิดและความเชื่อ ความเชื่อเป็นตัวกำหนดสภาพความเป็นจริงในชีวิตของคุณ
- คุณมีอิสระในการคิด ตัดสินใจ และลงมือทำเสมอ
- คุณถูกกำหนดให้ทำสิ่งที่แสนวิเศษให้กับชีวิตของตัวเอง
- โลกนี้ไม่มีขีดจำกัดว่าคุณสามารถทำ เป็น หรือมีอะไรได้บ้าง เว้นเสียแต่ว่าคุณจะยัดขีดจำกัดนั้นลงในหัวของคุณเอง
2. จินตนาการถึงเจ้าชายรูปงาม (ชีวิตในฝัน)
ถ้าตอนนี้กบของคุณยังไม่เปลี่ยนเป็นเจ้าชายในฝัน ลองจินตนาการถึงวันนั้นด้วย Vision Manifestation แนวคิดที่ช่วยให้คุณดึงดูดสิ่งที่ปรารถนาเข้ามาในชีวิต ผ่านการมองเห็นภาพชัดเจนของสิ่งที่คุณอยากเป็นหรือชีวิตที่คุณอยากครอบครอง
เหมือนกับคนที่ชอบทำ Vision Board ใน Pinterest ภาพชีวิตในฝันไว้ หรือตั้งภาพสถานที่ท่องเที่ยวในฝันเป็นวอลเปเปอร์มือถือเพื่อเตือนใจตัวเอง
ไบรอันได้แนะแนวทางการนึกภาพถึงชีวิตในฝันไว้ 4 ด้าน ได้แก่:
- อาชีพการงาน: งานในฝันของคุณเป็นอย่างไร? คุณอยากมีบทบาทแบบไหนในชีวิตการทำงาน?
- ความสัมพันธ์และครอบครัว: ความรัก ครอบครัว หรือมิตรภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณมีหน้าตาอย่างไร?
- ร่างกายและสุขภาพจิต: คุณอยากมีสุขภาพร่างกายและจิตใจแบบไหน? คุณอยากดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อให้รู้สึกดีที่สุด?
- การเงิน: สถานะทางการเงินที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณเป็นอย่างไร? คุณอยากมีรายได้เท่าไร หรืออิสรภาพทางการเงินในแบบของคุณคืออะไร?
ให้คุณลอง วาดภาพฝันของตัวเองอย่างไร้ขีดจำกัด จินตนาการถึงทุกอย่างที่คุณอยากได้ ไม่ว่าจะดูห่างไกลแค่ไหน อย่ากลัวที่จะฝันให้ใหญ่ แล้วหันกลับมามองชีวิตปัจจุบันของคุณ
ถามตัวเองว่า:
- ตอนนี้สถานการณ์ของคุณเป็นอย่างไร?
- อะไรคืออุปสรรคหรือเหตุผลที่ทำให้คุณยังไม่สามารถครอบครองชีวิตในฝันนั้นได้?
- สิ่งแรกที่คุณสามารถเริ่มต้นทำได้ในตอนนี้คืออะไร?
การเริ่มต้นเล็กๆ แม้เพียงก้าวเดียว เช่น การเรียนรู้เพิ่มเติม ลงมือทำสิ่งใหม่ หรือปรับพฤติกรรมบางอย่างให้สอดคล้องกับภาพฝันของคุณ เป็นการส่งพลังบวกและตั้งใจเดินหน้าสู่เป้าหมายในระยะยาว
3. กำจัดทัศนคติในแง่ลบ
เผชิญหน้ากับกบของคุณตรงๆ แล้วจูบมันซะ
บางครั้งเราไม่อยากจะมอง เจ้ากบ หรือปัญหาในชีวิตตรงๆ แต่คริสติน่าแนะนำให้เราเลือกเป็น ผู้เผชิญหน้า แทนที่จะเป็น ผู้หลบเลี่ยง ผู้เผชิญหน้ากล้าเผชิญกับความกลัวอย่างเปิดเผย สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองและสร้างชีวิตในแบบที่ต้องการได้
ตัวอย่างของซิสคือ หลังจากทำงานมาหลายปีจนใกล้จะถึงวัย 30 เจ้ากบของเราคือ การเปิดดูบันทึกรายจ่ายในแอปพลิเคชันธนาคาร สิ่งที่สะท้อนกลับมาคือพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างไร้สติ ทั้งน่าอายและน่าเสียดาย แต่สุดท้ายเรากลั้นใจจ้องมัน ใช้เวลาหลายวันนั่งทำบัญชีรายรับรายจ่าย ทบทวนพฤติกรรม และเริ่มต้นวางแผนการเงิน และเริ่มลงทุนเพื่อวันที่จะมีอิสระทางการเงินจะได้มาถึงเร็วขึ้นค่ะ
อีกหนึ่ง ‘กบ’ ที่เคยหลอกหลอนคือ การซื้อบ้านหลังแรก จากความคิดที่ว่า ผู้หญิงตัวคนเดียวจะไหวไหม เราไม่มีความรู้เรื่องอสังหาฯ และยังกังวลเรื่องหนี้สิน แต่เราเผชิญหน้ากับกบตัวนี้ เริ่มจากหาข้อมูลเรื่องบ้าน สินเชื่อ และคุยกับผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงนั่งทำแผนการเงินใน Google Sheets การลงมือทำทีละขั้นช่วยให้ในเวลาไม่ถึงครึ่งปี เราสามารถมีบ้านหลังแรกที่ชอบได้สำเร็จ
จงแยกแยะข้อเท็จจริงออกจากปัญหา
ข้อเท็จจริงคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น อายุของคุณ สภาพอากาศ หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว หากเจออุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงเหล่านี้ จงยอมรับและปรับตัวให้สอดคล้องกับมัน
ในขณะที่ ปัญหา คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ คุณสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหา โดยเริ่มต้นจากการตั้งคำถาม 4 ข้อ:
- เหตุการณ์นั้นเกิดอะไรขึ้น?
- มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
- เราสามารถทำอะไรได้บ้าง?
- ตอนนี้เราจะลงมือทำอะไรได้บ้าง?
การไตร่ตรองด้วยคำถามเหล่านี้ช่วยให้คุณจัดการปัญหาได้อย่างมีระบบ และแยกปัญหาออกจากสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
BRIAN TRACY, CHRISTINA STEIN
จูบกบตัวนั้นซะ!
ความสุขในวัยเยาว์ (หน้า 84)
ถ้าเจ้ากบของคุณคือ ความทรงจำของครอบครัวในวัยเยาว์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ไบรอันให้เราลองจินตนาการว่า คุณเป็นวิญญาณที่กำลังออกเดินทางทั่วจักรวาล เพื่อเลือกพ่อแม่ของคุณเอง คุณตั้งใจเลือกครอบครัวนี้เพราะคุณต้องการเผชิญกับความท้าทายและความทุกข์ในวัยเด็ก เพื่อให้คุณได้พัฒนาตัวเองและเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่งและยอดเยี่ยม
สำหรับคนที่เติบโตมาในครอบครัวที่ไม่อบอุ่นและยังรู้สึกเกลียดชังอดีต แนวคิดนี้ช่วยปลอบโยนได้มาก เพราะมันเปลี่ยนมุมมองให้เราเห็นว่า
- ข้อเท็จจริง คือ เราเกิดมาในครอบครัวนี้ วัยเด็กผ่านไปแล้ว และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้
- ปัญหา คือ เราเลือกที่จะยึดติดกับอดีตจนมันขัดขวางความสุขของเราในปัจจุบันและอนาคต
วิธีแก้คือ ยอมรับและเปลี่ยนมุมมองว่าคุณคือคนเลือกครอบครัวนี้เอง ครอบครัวในวัยเด็กได้หล่อหลอมให้คุณเป็นคุณในทุกวันนี้ แม้จะยากลำบาก แต่มันทำให้คุณมีประสบการณ์ และสิ่งที่วิเศษคือ ตอนนี้คุณสามารถเลือกครอบครัวของตัวเองได้จากบทเรียนในอดีต
อารมณ์บิดเบือนการประเมิน
บางครั้งเจ้ากบอาจดูน่ากลัวเกินจริงเพราะเรามองผ่านเลนส์ของอารมณ์ เช่น ความโกรธ ความกลัว หรือความกังวล ดังนั้นเมื่อปัญหาเกิดขึ้นและคุณรู้สึกว่าคุณกำลังใช้อารมณ์ในการตัดสิน ลองทำพักผ่อนและปล่อยเวลาให้ผ่านไปสักคืน เพื่อให้จิตใจสงบ หรือปรึกษาคนอื่น โดยเฉพาะคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหา อาจจะเล่าปัญหาแบบนิรนามในโลกออนไลน์ เพราะมุมมองของพวกเขามักเป็นกลาง และช่วยให้เราเห็นอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่เคยคิดถึง
หยุดกล่าวโทษ
หยุดกล่าวโทษทั้งตัวเองและคนอื่นแทนด้วยคำว่า “ฉันรับผิดชอบเอง” การรับผิดชอบในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการรับผิดในทุกสิ่งทุกอย่าง มันหมายถึง การรับผิดชอบต่ออารมณ์ ความรู้สึก และทัศนคติของตัวเอง
เมื่อทัศนคติด้านลบเกิดขึ้น คุณคือผู้ควบคุมว่าจะจัดการกับมันอย่างไร จะยังยึดติดกับมุมมองด้านลบต่อไป หรือจะเลือกปล่อยวางและมองหาสิ่งดีๆ ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
4. เพิ่มอารมณ์บวก
การคิดบวกอย่างสร้างสรรค์
เริ่มต้นจากแนวคิดพื้นฐานว่า คุณเป็นอย่างที่คุณคิด คุณเป็นอย่างที่คุณพูด และคุณเป็นอย่างที่คุณทำ ดังนั้นการใส่ คำยืนยันในแง่บวก ลงไปในสมองเป็นสิ่งสำคัญ เริ่มต้นจากคำพูดง่าย ๆ เช่น
- “ฉันทำได้”
- “ฉันชอบตัวเอง”
- “ฉันหาเงินได้ปีละ X บาท”
หากคุณต้องการเปลี่ยนนิสัย เช่น ลดน้ำหนัก แทนที่จะบอกว่า “ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้” หรือ “ฉันจะไม่กินอาหารขยะอีก” ลองเปลี่ยนเป็น “ฉันคือคนสุขภาพดี” เมื่อคุณเชื่อมั่นเช่นนี้ คุณจะเริ่มทำในสิ่งที่คนรักสุขภาพทำ เช่น เลือกกินอาหารดีๆ ออกกำลังกาย และดูแลตัวเอง แนวคิดนี้คล้ายกับหลักในหนังสือ Atomic Habits ที่เน้นว่า การเปลี่ยนตัวตนของคุณคือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนพฤติกรรม
ก้าวข้ามความกลัวและการถูกปฏิเสธ
สิ่งหนึ่งที่หลายคนกลัวคือ การถูกปฏิเสธและการล้มเหลว ซึ่งไบรอันบอกว่าเป็นธรรมชาติที่แม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกก็ต้องเจอ เขาเล่าว่าตอนอายุ 24 ปี ขณะที่ทำงานเป็นเซลล์เคาะประตูขายของ เจอทั้งคนใจดีและคนปฏิเสธมานับพัน หลังจากผ่านประสบการณ์นั้น เขาไม่กลัวการถูกปฏิเสธอีกต่อไป ทุกครั้งที่ถูกปฏิเสธ เขาจะยิ่งกระตือรือร้น ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติที่เราทุกคนต้องเจอ แต่สิ่งสำคัญคือ ไม่มีอะไรหยุดยั้งเราได้
5. จงกลายเป็นบุคคลที่ใช้ศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่
มีคำหนึ่งจากหนังสือที่ซิสชอบคือ บุคคลที่ใช้ศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ (หน้า 107) ซึ่งผู้เขียนอธิบายว่าหมายถึงคนที่มี วุฒิภาวะและบุคลิกภาพที่สมบูรณ์พร้อม เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเอง พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น และมั่นใจทั้งในตัวเองและในโลกใบนี้อย่างเต็มเปี่ยม
คนเหล่านี้มีความอบอุ่น มีเสน่ห์ มีมารยาท และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พวกเขาใส่ใจความคิดเห็นของผู้อื่น แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถดำเนินชีวิตตามแนวทางที่ตัวเองเชื่อมั่นได้อย่างอิสระ โดยไม่รู้สึกว่าต้องแก้ตัวหรืออธิบายการกระทำของตัวเองให้ใครฟัง
การได้อ่านคำอธิบายนี้เหมือนเป็นการเตือนใจให้เราอย่ากลัวที่จะก้าวไปข้างหน้า อย่าปล่อยให้ความกังวลเรื่องสายตาหรือคำพูดของคนอื่นมาหยุดยั้งเรา เพราะการใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและเต็มศักยภาพในแบบของเรานั้น นอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้ว ยังทำให้เราเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดได้ด้วย
แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 2012 แต่เนื้อหายังคงทรงพลัง แม้ผู้อ่านบางคนอาจเคยผ่านหนังสือแนวจิตวิทยาพัฒนาตัวเอง เช่น Atomic Habits หรือ The Power of Positive Thinking มาแล้ว แต่หนังสือเล่มนี้ยังคงเป็นรากฐานที่ดีในการปรับมุมมองชีวิต โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นค้นหาวิธีพัฒนาตัวเองค่ะ
ซื้อหนังสือ: Shopee, นายอินทร์, SE-ED, Kinokuniya
📚 จูบกบตัวนั้นซะ!
✍️ ผู้เขียน: Brian Tracy, Christina Stein
🌷 สำนักพิมพ์: WE LEARN
BRIAN TRACY, CHRISTINA STEIN
จูบกบตัวนั้นซะ!