#TheatreClub no. 116
ถอดรหัสความสำเร็จของเหล่าอินฟลูเกาหลีใต้จากรายการ The Influencers (2024) ทาง Netflix กันค่ะ!
เกาหลีใต้ทำรายการปังอีกแล้ว คราวนี้เป็นรายการแข่งขันชิงตำแหน่ง ‘อินฟลูเบอร์หนึ่งของเกาหลีใต้’ ของอินฟลูเอนเซอร์ 77 คนจากหลายวงการ เช่น บิวตี้, แฟชั่น, ตลก และท่องเที่ยว และจากหลายแพลตฟอร์ม เช่น TikTok, YouTube และ Instagram มียอดฟอลโลเวอร์ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึง 27 ล้านคน
ถึงซิสจะรู้จักผู้แข่งขันเพียงไม่กี่คน แต่ก็สนุกและลุ้นตามไปด้วย เข้าใจแล้วว่าทำไมแต่ละคนถึงมีอิทธิพลมากขนาดนี้ ดูจบแล้วอยากกดติดตามหลายคนเลยค่ะ
การแข่งขัน: ในรายการมีทั้งหมด 5 เกมเพื่อค้นหาอินฟลูเบอร์หนึ่ง พร้อมรับเงินรางวัล 300 ล้านวอน! (ประมาณ 7.4 ล้านบาท)
จุดเด่นของรายการคือ ผู้เข้าแข่งขันจะสวมปลอกคอราวกับหนัง Battle Royale แต่นี่ไม่ใช่ปลอกคอระเบิด แต่เป็นปลอกคอที่แสดง ‘มูลค่า’ ของแต่ละคน มูลค่าเริ่มต้นของผู้แข่งขันเท่ากับจำนวนฟอลโลเวอร์ของตัวเอง หลังจากแข่งขันไปเรื่อยๆ มูลค่าจะเปลี่ยนไปตามผลการแข่งขัน
บทความนี้เราจะมาตกตะกอน ‘ทักษะความเป็นอินฟลู’ จากแต่ละเกมกันค่ะ
5 เกมชิงเงิน 300 ล้านวอน ใครจะเป็นสุดยอดอินฟลู?
เกมที่ 1 สงครามชิงยอดไลค์
กติกา: ผู้แข่งขันทั้ง 77 คนจะได้รับสิทธิ์ในการกดโหวต Like และ Dislike อย่างละ 15 โหวต ให้กับอินฟลูคนใดก็ได้ ภายในเวลา 2 ชั่วโมง
ทีแรกทุกคนต่างเข้าใจว่าคนที่ได้ Like เยอะจะรอด ส่วนคนที่ได้ Dislike เยอะคือผู้ที่ต้องตกรอบ ทุกคนจึงพยายามเข้าหาคนอื่นอย่างเฟรนด์ลี่เพื่อเก็บยอด Like และหลบเลี่ยง Dislike เท่าที่จะทำได้
แต่ที่จริงแล้วเกมนี้วัดกันที่ยอดรวมของ Like + Dislike ต่างหาก! ไม่ว่าคุณจะได้รับคำชื่นชมหรือติเตียน นั่นก็คือความเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับความสนใจจากคนอื่นอยู่เสมอ
เกมที่ 2 แข่งไลฟ์สด
กติกา: ผู้แข่งขันจะต้องไลฟ์สดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงต่อรอบ รวม 2 รอบ เมื่อจบเวลาทั้งสองรอบ ใครที่มียอดผู้ชมน้อยที่สุดจะต้องตกรอบ
ผู้แข่งขันสามารถเลือกเนื้อหาไลฟ์ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม พูดคุย อีกทั้งยังสามารถเชิญแขกรับเชิญมาร่วมสร้างสีสันได้ 1 รอบ ความคิดสร้างสรรค์และกลยุทธ์ที่ใช้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดผู้ชม
เกมที่ 2.5 ประมูลคู่หู
กติกา: ในรอบถัดไปจะเป็นการแข่งขันถ่ายภาพแบบทีมสองคน แต่เมื่อเหลือผู้แข่งขัน 15 คน หมายความว่าจะมีคนหนึ่งที่ต้องตกรอบ ซึ่งวิธีการคัดเลือกคู่หูในเกมนี้คือ การ “ประมูล” ผู้เล่น!
ผู้แข่งขันจะต้องเข้าไปในตู้กลางเวทีทีละคน จากนั้นทุกคนจะทำการประมูลเพื่อชิงตัวคู่หูที่ต้องการจะร่วมทีมในเกมถัดไป แน่นอนว่าความอึดอัด ความเขินอาย และความตึงเครียดจะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ป็อปปูลาร์มากนัก
นี่คือเกมสั้นๆ ที่โหดร้ายกับจิตใจที่สุดแล้ว เพราะเป็นการทดสอบว่าใครเป็นที่ต้องการ และใครที่ต้องถูกทิ้งไว้คนเดียว
เกมที่ 3 แข่งโพสต์ภาพนิ่งบนฟีด
กติกา: ผู้แข่งขันจะถูกจับคู่เป็นทีม ต้องโพสต์ภาพถ่ายทีมละ 1 ภาพ วางเรียงกันบนฟีดแบบ 9 ช่อง ซึ่งภาพเหล่านี้จะถูกโชว์ให้ผู้ชม 100 คนดูเป็นเวลา 7 วินาที! โดยใช้เซนเซอร์สายตาวัดความสนใจจากผู้ชมว่าภาพไหนดึงดูดสายตามากที่สุด ทีมที่สามารถทำได้ดีที่สุดจะผ่านเข้ารอบ
เกมที่ 4 เจ้าแห่ง # Hashtag
กติกา: ทางรายการจะโชว์แฮชแท็กที่เกี่ยวกับอินฟลูเซอร์ เช่น #เทรนด์ใหม่มาแรง #อันดับหนึ่ง หรือ #ฉาว จากนั้นผู้แข่งขันจะต้องนำเสนอว่าทำไมตัวเองถึงเหมาะที่จะเป็นเจ้าของแฮชแท็กนั้น! ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจะโหวตให้ใครที่มีความสามารถในการนำเสนอมากที่สุด และสะสมคะแนนไปเรื่อยๆ ใครที่ได้คะแนนน้อยสุดต้องตกรอบ
เกมที่ 5 แสดงสดชิงความสนใจจากผู้ชม
กติกา: เมื่อการแข่งขันเหลือเพียง 4 คนสุดท้าย แต่ละคนจะแสดงในห้องส่งเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 4 เวที ถ้าใครสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมในห้องส่งได้มากที่สุด จะได้ตำแหน่ง ‘อินฟลูเอนเซอร์อันดับหนึ่ง’ พร้อมเงินรางวัลไปเลย
บทเรียนทักษะความเป็นอินฟลู
- Influencer คืออำนาจ: การมีตัวตนในโลกออนไลน์สามารถมีอำนาจเหนือคนอื่นและชักจูงการตัดสินใจได้มากกว่าที่คิด!
- ยอดผู้ติดตาม = พลัง: บางคนมองว่ายอดฟอลของตัวเองสูงอยู่แล้ว แต่พอมาเจอคนอื่นที่ฟอลเยอะกว่า ก็แอบเสียเซลฟ์ ยอดฟอลเลยกลายเป็นตัวชี้วัด(สำหรับบางคน)ว่าคุณ “สำคัญ” แค่ไหน
- สงครามแพลตฟอร์ม: ผู้เข้าร่วมที่มียอดฟอลเยอะๆ มักเป็น TikToker อย่าง ‘Sia Jiwoo’ ที่มียอดฟอลถึง 27 ล้านคน! แต่ก็เลยกลายเป็นเป้าหมายของคนจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ถล่มกดดิสไลค์เพื่อกำจัดเธอ
- ดิสไลค์ไม่ได้แปลว่าถูกเกลียดเสมอไป: บางคนแค่กลัวหรืออิจฉา อย่าง ‘Kejimin’ ที่ออกมาเต้นและโชว์เทควันโดเก่งมากๆ แต่กลับได้ดิสไลค์เยอะเพราะเธอเก่งเกินไป จนคนอื่นมองว่าเธอเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว
- ความกลัวที่แท้จริงของอินฟลูคือ ‘การถูกเมิน’: สิ่งที่แย่กว่าการได้ดิสไลค์ คือการที่ไม่มีใครสนใจคุณเลยต่างหาก
- ไม่ทำอะไรเลย ก็ไม่ถูกเกลียด แต่ก็ไม่มีตัวตนเช่นกัน: หลายคนที่พยายามหลบเลี่ยงดราม่าและเล่นแบบปลอดภัย สุดท้ายกลายเป็นผู้เล่นที่ไม่มีใครจำได้และตกรอบ
- กล้าที่จะโดนเกลียด: ‘จินยงจิน’ ยูทูปเบอร์และผู้กำกับที่อ่านเกมออก ว่าคนที่จะตกรอบไม่ใช่คนที่ได้ดิสไลค์เยอะ แต่เป็นคนที่ไม่มีใครสนใจ เขาเลยเลือกกลยุทธ์สร้างดราม่าเพื่อเรียกความสนใจ แม้จะถูกถล่มดิสไลค์ แต่สุดท้ายก็ได้อยู่ต่อในเกม
- พลังของดิสไลค์มันแรงกว่ายอดไลค์: หลายคนได้รับไลค์เยอะมาก แต่พอเจอดิสไลค์นิดเดียว ก็ใจเสียกันหมด
- วิธีการได้ยอดไลค์ก็สำคัญ: ผู้แข่งขัน ‘CaddieWanny’ เลือกใช้วิธีข่มขู่คนอื่นเพื่อให้ได้ไลค์ ซึ่งผลกลับตาลปัตร ทุกคนหมั่นไส้แล้วดิสไลค์ให้เขาเต็มๆ!
7 ผู้แข่งขันที่น่าประทับใจ
ขอหยิบผู้แข่งขัน 7 คนที่ซิสประทับใจมาแนะนำกันค่ะ
1. Juice Seyeon: สาวสวยที่เป็นหน้าปกของรายการ ดึงดูดซิสให้กดเข้ามาดูแบบทันที! Juice เป็นครีเอเตอร์สายไลฟ์เซ็กซีและพูดคุยกับแฟนคลับ ผ่านช่องทางหลักอย่าง AfreecaTV มียอดผู้ติดตาม 159,000 คน ด้วยคาแรกเตอร์ที่สดใสและพูดคุยกับแฟนๆ อย่างเป็นกันเอง ทำให้เธอเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่หลายคนจับตามอง
2. Jang Keun-suk: ถ้าใครเป็นสายซีรีส์เกาหลียุค 2000s ต้องจำเขาได้จากบทพระเอกในซีรีส์ “You’re Beautiful” แน่นอน ดังเป็นพลุแตกจนเขาถูกขนานนามว่า “Asia Prince” จากดาราซุปตาร์ ตอนนี้ขยายตัวเองมาเป็นอินฟลูเต็มตัว ด้วยการเริ่มทำช่อง YouTube มีผู้ติดตามถึง 656,000 คน ตอนแรกทุกคนคิดว่าเขาจะมาเป็นพิธีกร แต่ปรากฏว่าเขาคือหนึ่งในผู้แข่งขัน! ซิสชอบที่เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัว และประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 20 ปี รู้วิธีดึงดูดคนและควบคุมสถานการณ์ได้อย่างชาญฉลาด
3. Mejiwoo: หลายคนอาจจะรู้จักเธอในฐานะพี่สาวของ J-Hope จากวง BTS แต่ Mejiwoo เป็นมากกว่านั้น! เธอเป็นทั้งยูทูปเบอร์และเจ้าของแบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ มีผู้ติดตามถึง 10.7 ล้านคนบน Instagram ค่ะ เป็นอีกคนที่ซิสฟอลเพราะประทับใจเธอในฐานะผู้หญิงที่มีทั้งความสามารถ ความมั่นใจ และไลฟ์สไตล์เลิศๆ
4. Jin Yong-jin: คนนี้ต้องบอกว่าเป็นตัวเก็งที่มาเหนือมาก! Jin Yong-jin เป็นทั้งยูทูปเบอร์และผู้กำกับรายการและซีรีส์ มีผู้ติดตาม 2.68 ล้านคนบน YouTube บุคลิกของเขาดูเป็นคนสุขุม อ่านเกมออกเร็วที่สุด วางกลยุทธ์ได้อย่างเฉียบขาดจนเข้ารอบมาได้อย่างน่าประทับใจทุกรอบ สิ่งที่ประทับใจคือพี่แกชิลมาก ขนาดระหว่างแข่งขันยังนั่งจิบเหล้าไปด้วย เป็นคนที่ทำให้เห็นว่า การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและการมีกลยุทธ์ที่ดี ทำให้เขาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองที่สุดในเกมนี้
5. RISABAE: ตัวแม่ของวงการบิวตี้เกาหลีรุ่นเก๋า มีผู้ติดตามถึง 2.26 ล้านคนบน YouTube เมื่อเธอปรากฏตัวในรายการ ผู้เข้าแข่งขันหลายคนถึงกับกรี๊ดและเข้ามาขอถ่ายรูปทันที! RISABAE เป็นเหมือนพี่สาวที่ใจดีและอบอุ่น เธอมีความสามารถและความชอบในการแต่งหน้า เป็นกันเองกับทุกคน ทั้งในรายการและกับแฟนๆ เธอมักบอกคนอื่นว่า “เรามาสนุกกันเถอะ!” การที่เธอมีความตั้งใจในการแข่งขันแต่ยังคงให้ความสำคัญกับความสนุก เป็นสิ่งที่ซิสประทับใจมาก
6. Oking: ยูทูปเบอร์และสตรีมเมอร์สายพูดคุยที่มีผู้ติดตาม 1.57 ล้านคน เขาเป็นคนที่มีทักษะการสื่อสารดีมาก และสามารถเชื่อมโยงกับผู้ชมได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เขามีแฟนคลับเหนียวแน่น Oking มีความสามารถพิเศษในการรับฟังและพูดคุยปรึกษาปัญหากับผู้ชม ทำให้คนที่ติดตามเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคอนเทนต์ อีกทั้งยังมีอารมณ์ขันและความสนุกสนาน เป็นคนที่สร้างความผูกพันกับแฟนคลับได้อย่างเหนียวแน่น
7. PaniBottle: ยูทูปเบอร์สายท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตาม 2.29 ล้านคน เป็นคนที่ซิสรู้สึกประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกตอน เขามีความเป็นผู้นำที่ชัดเจน ซื่อตรงต่อความเป็นครีเอเตอร์ของตัวเองสูงมาก PaniBottle มีความหลงใหลในงานของเขาและแสดงให้เห็นถึงความรักในสิ่งที่ทำ การท่องเที่ยวและการเล่าเรื่องของเขามีความแตกต่างและแปลกใหม่ ทำให้คอนเทนต์ของเขาน่าสนใจและมีเอกลักษณ์
สรุปรายการ The Influencers ออกแบบเกมมาได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับชื่อเสียงเจ้าแห่งวาไรตี้ของเกาหลีใต้! ไม่เพียงแต่ทดสอบทักษะความเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในหลายด้าน แต่ยังวัดผลจากความสามารถในการดึงดูดและสร้างอิทธิพลต่อผู้คนได้อย่างแท้จริง หากใครที่ต้องการเรียนรู้วิธีการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ประสบความสำเร็จ แนะนำให้รายการนี้เลยค่ะ