#ReadersGarden เล่มที่ 70
คิดไปเองมาตลอดว่าวรรณกรรมอมตะอย่างเจ้าชายน้อย (The Little Prince) ของอองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี (Antoine de Saint-Exupéry) คงจะเป็นเรื่องราวอบอุ่นหัวใจเหมือนกับนิทานก่อนนอนของเด็กๆ ที่จบอย่างมีความสุข แหม ก็ภาพหน้าปกหนังสือที่มีเด็กชายผมทองราวกับภูติน้อย ดอกกุหลาบและดวงดาว มันดูอบอุ่นและงดงามออก
นึกว่าจะได้อ่านเรื่องราวอบอุ่นหัวใจ กลับกลายเป็นว่าหดหู่หัวใจแทนเมื่อคิดว่าเราเองก็มีส่วนคล้ายกับตัวเอกของเรื่องอย่างนักบินหนุ่ม ผู้ใหญ่ที่มีหัวใจแห้งแล้ง
นี่เป็นเรื่องราวของนักบินหนุ่มที่ละทิ้งตัวตนในวัยเยาว์ไปจนหมดสิ้นกับเจ้าชายน้อยผู้เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้และจินตนาการ
เรื่องย่อเจ้าชายน้อย
นักบินหนุ่มคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกกลางทะเลทรายซาฮารา ที่นั่นเขาได้พบกับเจ้าชายน้อย เด็กชายตัวเล็กที่มาจากดวงดาว B-612 ซึ่งกำลังท่องเที่ยวเยี่ยมเยียนดาวเพื่อนบ้านจนมาถึงดาวโลก ระหว่างที่นักบินหาทางเอาตัวรอดจากทะเลทราย เขาได้เรียนรู้เรื่องราวการผจญภัยของเจ้าชายน้อย ความใสซื่อบริสุทธิ์ของเด็กน้อยค่อยๆ รดน้ำหัวใจที่แห้งแล้งของเขาให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เจ้าชายน้อยเป็นวรรณกรรมสั้นสำหรับผู้ใหญ่ที่หวนให้คิดถึงตัวตนในวัยเด็ก อ่านแล้วอยากจะเอาพลังแห่งความเยาว์วัย (youth) กลับมา ขอสรุป 4 ข้อคิดจากข้อความในหนังสือดังนี้ค่ะ
“ผู้ใหญ่ทุกคนล้วนเคยเป็นเด็กกันทั้งนั้น แม้ว่าจะมีไม่กี่คนที่จดจำได้”
พวกเราทุกคนล้วนเคยเป็นเด็กที่ใสบริสุทธิ์ ช่างสงสัย กล้าตั้งคำถาม กล้าออกสำรวจสิ่งใหม่ๆ โลกใบเล็กของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ แต่น่าแปลกที่ยิ่งเติบโตขึ้น โลกของเรากว้างมากขึ้น ความรู้เพิ่มพูนขึ้น แต่เรากลับมีความกล้าน้อยลง ระมัดระวังตัวเสียจนไม่กล้าใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ เหมือนกับนักบินหนุ่มคนนั้น
สมัยที่นักบินหนุ่มยังเป็นเด็ก เขาเลิกวาดรูปซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบ เพราะคิดว่าตัวเองไร้ฝีมือจากคำพูดของผู้ใหญ่ เขาหันมาทำแต่สิ่งที่พวกผู้ใหญ่บอกว่าดีจนเติบโตมาเป็นนักบิน ใช้ชีวิตตามค่านิยมของสังคมจนหลงลืมความสุขของตัวเอง
จนกระทั่งเขาได้พบกับเจ้าชายน้อยซึ่งเป็นตัวแทนของวัยเยาว์ ตัวตนที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ ความกล้าหาญ ความฝัน จินตนาการและความเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ตัวตนเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ใหญ่ทุกคนล้วนเคยเป็นมาก่อน แต่สูญเสียมันไปทีละอย่างตามกาลเวลาและประสบการณ์
เจ้าชายน้อยทำให้นักบินหนุ่มเริ่มตระหนักถึงตัวตนในวัยเยาว์อีกครั้ง หัวใจแห่งวัยเยาว์ที่ชุ่มฉ่ำ ความไม่รู้ไม่ใช่ความโง่เขลา การมีความฝันและลงมือทำไม่ใช่ความเพ้อฝัน ความกล้าหาญไม่ใช่ความบ้าบิ่น ความเชื่อมั่นในตัวเองไม่ใช่ความหลงตัวเอง ตัวตนแห่งวัยเยาว์เหล่านี้ช่วยเติมเต็มให้พวกเราใช้ชีวิตวัยผู้ใหญ่ได้อย่างเต็มที่และไม่เสียดายทีหลัง
“เราจะมองเห็นทุกอย่างได้ถ่องแท้เมื่อใช้หัวใจ สิ่งสำคัญไม่อาจมองเห็นได้ด้วยดวงตา”
นี่คือธีมหลักของวรรณกรรมเล่มนี้ ระหว่างการเดินทางเยี่ยมเยียนดวงดาวต่างๆ เจ้าชายน้อยได้พบกับผู้ใหญ่หลายประเภท มีทั้งพระราชาบ้าอำนาจ, จอมหลงตัวเอง, คนขี้เมาที่ไม่ทำอะไรเลย, นักธุรกิจจอมละโมบ, คนจุดตะเกียงผู้ไม่เคยหยุดพัก, นักภูมิศาสตร์ผู้ไม่เคยออกไปสำรวจด้วยตัวเอง รวมถึงนักบินผู้ไร้จินตนาการ
ผู้ใหญ่เหล่านี้มีหัวใจแห้งแล้ง มองเห็นแต่ตัวเอง ไม่เคยหยุดมองสิ่งสวยงามรอบตัวหรือใส่ใจคนอื่น และพวกเขาไม่เคยพึงพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี ในขณะที่เจ้าชายน้อยมีความสุขเรียบง่ายกับดอกกุหลาบแสนสวยของเขา (แม้สุดท้ายกุหลาบดอกนั้นจะเอาแต่ใจและเป็นสาเหตุให้เขาออกเดินทางก็เถอะ!)
สิ่งที่เราได้เรียนรู้คือ ทุกคนล้วนมีวิถีชีวิตของตัวเอง มันไม่ผิดหรอกหากคุณจะชื่นชอบการมีอำนาจ ความร่ำรวย หลงตัวเอง ทำงานหนักแบบไม่หยุดพัก หรืออยู่แต่ในพื้นที่แห่งความสบายใจ ตราบใดสิ่งที่คุณเลือกไม่ทำให้คนอื่นและตัวเองเดือดร้อน
แต่ถ้าหากคุณไม่มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม บางทีการใช้ชีวิตแบบเจ้าชายน้อยอาจจะนำพาความสุขมาก็ได้ คิดน้อยลง ใช้หัวใจมองโลกให้มากขึ้น สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงวัตถุภายนอก แต่เป็นความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นภายในหัวใจ
สิ่งที่ทำให้ทะเลทรายสวยงาม อยู่ตรงที่มันซ่อนบ่อน้ำไว้ที่ใดสักแห่ง
ในทุกช่วงการเติบโต พวกเราย่อมต้องเจอกับทะเลทรายหรืออุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคด้านการเรียน การงาน การเงิน ความสัมพันธ์ สุขภาพกาย สุขภาพใจและอื่นๆ ทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาล้วนทำให้ชีวิตงดงามและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
คำพูดนี้ทำให้ซิสนึกถึงทริปปีนเขาที่ภูกระดึง ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เดินกว่า 20 กิโลเมตรท่ามกลางอากาศหนาวองศาเลขตัวเดียว ทรมานจนน้ำตาไหล แต่ความยากลำบากทำให้วิวธรรมดาๆ งดงามจนตราตรึงในใจ อาหารธรรมดาๆ กลับอร่อยจนรู้สึกขอบคุณที่ได้กิน มิตรภาพกับเพื่อนร่วมทริปก็แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อุปสรรคทำให้สิ่งธรรมดาๆ งดงามและมีคุณค่ามากขึ้น — ไม่ได้จะเชิญชวนให้ทุกคนไปปีนเขา (เพราะซิสก็ไม่ไปแล้วค่ะ ฮ่าๆ) หรือสนับสนุนให้เดินเข้าไปหาอุปสรรค แต่ถ้าอุปสรรคมันเกิดขึ้นแล้ว ถือเสียว่าเป็นบททดสอบที่เข้ามาทำให้ชีวิตแข็งแกร่งและงดงามยิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับนักบินหนุ่มที่เครื่องบินตกกลางทะเลทราย เขามัวแต่จดจ่ออยู่กับทะเลทรายที่กว้างสุดลูกหูลูกตา นับถอยหลังเสบียงที่เหลือ จดจ่ออยู่กับการซ่อมเครื่องบิน จดจ่อแต่กับอุปสรรคที่เกิดขึ้นจนบั่นทอนจิตใจลงทุกวันและระเบิดอารมณ์โมโหใส่เจ้าชายน้อยในที่สุด
การติดอยู่ในทะเลทรายแล้วสติแตกจนระเบิดอารมณ์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่หากมองตามความอุปมาอุปมัยของวรรณกรรมเรื่องนี้ นักบินหนุ่มมัวแต่จดจ่อกับอุปสรรคจนบั่นทอนตัวเอง และมองไม่เห็นสิ่งสวยงามในอุปสรรค นั่นคือมิตรภาพระหว่างเขากับเจ้าชายน้อย และหลงลืมว่าในทะเลทรายย่อมต้องมีโอเอซิสซ่อนอยู่
สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะเอาชนะหรือพ่ายแพ้ต่ออุปสรรค มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ เติบโตและเข้มแข็งขึ้น เหมือนกับวลีที่ว่า “What doesn’t kill you makes you stronger. (สิ่งที่ฆ่าเราไม่ได้ มันจะทำให้เราแกร่งขึ้น)”
ซื้อหนังสือ: นายอินทร์, SE-ED, Kinokuniya
เธอต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เธอสร้างความสัมพันธ์ด้วย
หลังจากที่เจ้าชายน้อยมาถึงดาวโลกได้ไม่นาน เขาก็ได้พบความจริงว่า แท้จริงแล้วกุหลาบแสนสวยเพียงหนึ่งเดียวบนดาวของเขาไม่ได้แตกต่างไปจากกุหลาบที่มีอยู่นับไม่ถ้วนบนดาวโลกเลย เธอไม่ได้พิเศษเช่นนั้นหรือ?
แต่แล้วเขาก็พบกับสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งที่สอนให้รู้จักคุณค่าของความสัมพันธ์ “ไม่มีร้านไหนหรอกนะที่เราจะหาซื้อมิตรภาพได้ หากเธอต้องการเพื่อนล่ะก็ ทำให้ฉันเชื่องสิ” ความสัมพันธ์ต้องใช้เวลา ความเอาใจใส่และความสม่ำเสมอ
เมื่อผลผลิตของมิตรภาพงอกงาม เราจะพบว่าแม้ว่าผู้คนบนโลกจะเหมือนกัน แต่ก็แตกต่างกัน สิ่งที่ทำให้คนคนหนึ่งกลายเป็นคนพิเศษคือการฟูมฟักเอาใจใส่ในความสัมพันธ์ เหมือนกับดอกกุหลาบของเจ้าชายน้อย แม้บนโลกจะมีดอกกุหลาบที่หน้าตาเหมือนกันนับล้าน แต่ไม่มีดอกไหนพิเศษเหมือนกับกุหลาบแสนสวยของเขา นั่นเพราะความผูกพันที่เกิดจากการที่เขาคอยดูแล รดน้ำ ไล่แมลง ฟูมฟักจากเมล็ดจนกลายเป็นดอกไม้
หากคุณต้องการสานสัมพันธ์กับใครสักคน ให้ใช้เวลาค่อยๆ ฟูมฟักมิตรภาพ และรักษาความสัมพันธ์ดีๆ ที่มีอยู่ด้วยการเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้และยังไม่เคยอ่านเรื่องเจ้าชายน้อยมาก่อน คุณอาจสงสัยว่าทำไมตอนต้นซิสถึงได้บอกว่าอ่านเล่มนี้แล้วหดหู่ใจ ทั้งที่ข้อคิดที่ได้ก็อบอุ่นใจอยู่นะ สาเหตุที่รู้สึกหดหู่คือตอนจบช็อตฟีลสุด ถึงกับต้องพลิกกลับไปอ่านบทสุดท้ายอีกรอบว่า จบแบบนี้จริงดิ!? ตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจเลยค่ะว่าตอนจบจะสื่ออะไร รู้แต่หดหู่ใจ 😭
อย่างไรก็ตามเราพอเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าชายน้อยถึงเป็นวรรณกรรมอมตะ อยากให้ผู้ใหญ่ทุกคนที่คิดถึงตัวตนในวัยเยาว์ได้อ่าน ตัวตนที่เต็มไปด้วยความช่างสงสัย ความฝัน ความกล้า ความหวังดีที่มีต่อเพื่อนร่วมโลกอย่างไร้เงื่อนไขและความเชื่อว่าตัวเองทำได้ทุกอย่าง คุณสามารถกลับมามีหัวใจแห่งวัยเยาว์อีกครั้งเหมือนกับเจ้าชายน้อยได้