สรุปหนังสือโปรดอย่าใจร้ายกับหัวใจของเธอ

รีวิวหนังสือโปรดอย่าใจร้ายกับหัวใจของเธอ : รักตัวเองและผู้อื่นแบบถูกวิธี

0 Shares
0
0
0
0
0

#ReadersGarden no.96

ทุกเช้าที่ซิสเปิดฟังข่าวไปพลางๆ ระหว่างทำอาหาร จะต้องได้ยินข่าวคนทำร้ายกันบาดเจ็บ เสียโฉม พิการ หรือเสียชีวิตทุกวัน หนึ่งในสาเหตุหลักที่ได้ยินบ่อยๆ เกิดจาก ‘ความรัก’ ไม่ว่าจะเป็นความหึงหวง แอบรัก นอกใจ และความสัมพันธ์เป็นพิษ

มุมมองจากคอมเมนต์และคนนอกอย่างเรามักจะเห็นไปทางเดียวกันว่า ไม่เข้าใจ! ทำไมต้องทำร้ายกันขนาดนี้เพราะความรัก ทำไมไม่รู้จักปล่อยวาง! แต่ก็วิจารณ์ได้ไม่เต็มปากนักเพราะสมัยเด็กเราก็เคยทำตัวโง่เขลา งี่เง่า ไร้เหตุผลเพราะความรักเหมือนกัน (โชคดีที่เป็นแค่เรื่องน่าอายแต่ไม่มีใครต้องเจ็บตัว!)

เราจึงคิดว่าการเข้าใจความรัก รักตัวเองและรักผู้อื่นอย่างถูกวิธีเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะอารมณ์รักมักจะรุนแรง เป็นทั้งพลังบวกและพลังลบที่ขับเคลื่อนให้เราทำสิ่งที่คาดไม่ถึงได้ หนังสือโปรดอย่าใจร้ายกับหัวใจของเธอเล่มนี้สามารถขัดเกลาให้เรารู้จักรักตัวเองและผู้อื่นแบบถูกวิธีได้ และอยากส่งต่อความอ่อนโยนให้กันและกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักในรูปแบบใดก็ตามค่ะ

“เมื่อเรารักตัวเองแบบถูกวิธี เราจะรักคนสำคัญในชีวิตแบบถูกวิธีมากขึ้นเช่นกัน เราจะเข้าใจ ยอมรับ และมองเห็นเสน่ห์ในความแตกต่างหลากหลายของมนุษย์”

หากคุณกำลังเจ็บปวดกับความรัก มีรักที่ไม่สมหวัง มีคนรักแต่กลับไม่เป็นไปตามที่คิด กำลังตามหาความรัก หรือเผลอทำความรักตัวเองหล่นหายไป หนังสือโปรดอย่าใจร้ายกับหัวใจของเธอจะเป็นเพื่อนผู้เข้าใจทุกหัวใจที่กำลังเปราะบาง และเผยความอัดอั้นในใจของเราออกมาผ่านภาษาอันสวยงามของคุณวิน นิมมานวรวุฒิ เจ้าของเพจโรแมนติกร้าย 

ซิสเชื่อว่าภายในเล่มนี้มีอย่างน้อย 1 บทความเรียงที่เหมือนเขียนเรื่องราวความรักของคุณออกมา และไม่แน่ว่าคุณอาจจะเจอคำตอบของความรัก เหมือนกับที่ซิสเจอหลังจากอ่านเล่มนี้จบก็ได้ค่ะ •ᴗ•

ก่อนหน้านี้ซิสเคยอ่านเธอจะไม่หลงทางบนถนนที่สร้างเองของคุณวิน ว่าด้วยการตามหาตัวเองในวัยผู้ใหญ่ การเติบโต และเป้าหมายชีวิต ทุกถ้อยคำเขียนเหมือนมานั่งอยู่ในใจ และเติมพลังความสดใสให้เรา ส่วนโปรดอย่าใจร้ายกับหัวใจของเธอเล่มนี้ว่าด้วยเรื่องราวความรักเป็นหลักค่ะ เป็นเพื่อนฮีลใจในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเลย

ความหนาสองร้อยกว่าหน้า แบ่งออกเป็น 3 บทตามความรู้สึกเกี่ยวกับความรัก สามารถเลือกอ่านบทที่เรารู้สึกว่ากำลังเข้ากับสถานะหัวใจ ณ ตอนนั้น ไม่จำเป็นต้องอ่านเรียงกันมาค่ะ



1. โมงยามที่อ่อนไหว

ในช่วงเวลาที่เรากำลังเปราะบาง หัวใจยังแข็งแรงไม่พอ สับสนในความรักว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ถ้อยคำในบทนี้จะเป็นเพื่อนคอยปลอบใจ “ทุกความเศร้าไม่ใช่จุดจบ”

“ในฤดูแห่งความเศร้า เราอาจไม่ได้กลัวความเศร้า มากเท่ากับกลัวตัวเราที่เคยชินกับมัน” 

นี่เป็นหนึ่งในถ้อยคำที่ซิสชอบในบทนี้ ยิ่งโตขึ้นยิ่งพบเจอกับความผิดหวังมากขึ้น ความกล้าหาญค่อยๆ หดลง จนเราเริ่มเคยชินกับความเศร้าและความผิดหวัง กลายเป็นคนไม่กระตือรือร้นหรือทะเยอทะยานเท่าที่อยากจะเป็น เพราะกลัวจะลงเอยด้วยความผิดหวังอีก

บทนี้เตือนสติเราว่าบางครั้งความผิดหวังและโดดเดี่ยวไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า… เราเปลี่ยนมันให้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้โลกใบนี้น่าอยู่มากขึ้นได้ อาจมีบางช่วงเวลาที่เราเศร้าเก่งจนสูญเสียความั่นใจ และหลงลืมไปว่าเราคู่ควรกับความสุข “โปรดอย่าลืมว่าทุกความผิดพลาดและบาดแผล ไม่ได้ลดทอนคุณค่าและความน่ารักของเธอ”

อีกสิ่งที่ได้จากบทนี้คือ การเตรียมสิ่งที่ช่วยซัพพอร์ตหัวใจไว้ในยามเศร้า สำหรับคุณวิน “ไอศกรีมคือยารักษาหัวใจที่เห็นผลทันตา ดนตรีมีอิทธิพลสำคัญต่อหัวใจ เปลี่ยนหนังเศร้าให้กลายเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ได้” สำหรับคนรักเสียงเพลงอย่างซิส อ่านจบแล้วลุกมานั่งจัดเพลย์ลิสต์เพลงเป็นหมวดๆ ตามเลยค่ะ แค่นี้ก็รู้สึกว่าพร้อมโอบกอดทุกความรู้สึกของชีวิตแล้ว

2. หัวใจที่แข็งแรง

ในวันที่คุณอยากเดินหน้าต่อ ปล่อยวางจากความรักที่เป็นพิษต่อหัวใจ บทนี้จะเป็นเพื่อนที่เดินจูงมือคุณออกมาและเติมความเข็มแข็งให้คุณเดินต่อไปได้อย่างสง่างามค่ะ

“ธรรมชาติของเราถูกออกแบบมาให้มีความรัก มันอาจยากและใช้เวลาไม่เท่ากันในการค้นพบคนรัก เพราะจังหวะชีวิตของเราแตกต่างกัน… คนที่ทำให้หัวใจเหมือนค้นพบบ้าน อาจไม่จำเป็นต้องเข้ามาในรูปแบบคนรักเสมอไป” 

ซิสชอบที่บทนี้ย้ำเตือนว่า “การถูกปฏิเสธไม่ได้แปลว่าเราไม่มีคุณค่า เรายังน่ารักเหมือนเดิมสำหรับตัวเองและคนที่มองเห็น” บางคนอาจสูญเสียความมั่นใจไปหลังจากถูกปฏิเสธ เฝ้าถามตัวเองว่าเราไม่ดีตรงไหน ซิสชอบที่คุณวินเปรียบเปรยเรื่องนี้ให้เห็นภาพว่า มันก็เหมือนกับการที่เราเลือกของหวานในคาเฟ่ มีเมนูน่าทานละลานตาไปหมด แต่เราไม่สามารถทานได้ไหวทุกชิ้นจึงต้องเลือก สำหรับของหวานที่ไม่ถูกเลือกใช่ว่าจะไม่ดีอะไร แค่ยังไม่ถึงเวลาที่ใช่เท่านั้นเอง

3. รักตัวเองไปด้วยกัน

ในวันที่เราตื่นมาแล้วไม่อยากจะเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ถ้อยคำในบทนี้จะช่วยเติมความรัก ความมั่นใจ และช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเองอีกครั้งค่ะ บทนี้อ่านแล้วยิ้มตามเลย

“โปรดอย่าเป็นหญิงสาวที่กินเค้กแล้วกลัวอ้วน มันไม่ต่างจากการถูกรัก แต่ไม่กล้าที่จะรัก โปรดเป็นหญิงสาวที่กินเค้กแล้วยิ้ม ก่อนเบิร์นแคลอรีอย่างกล้าหาญ มีความสวยและหวานแบบพอดี”

วิน นิมมานวรวุฒิ, หนังสือโปรดอย่าใจร้ายกับหัวใจของเธอ

สำหรับคนที่ทั้งชอบทานของหวานแต่กลัวอ้วน อยากมีความรักแต่กลัวอกหัก ประโยคด้านบนทำเอาเรายิ้มไม่หุบพลางคิดว่า ‘ก็จริงเนอะ จงรักอย่างกล้าหาญ และเบิร์นแคลอรีอย่างกล้าหาญ’

นอกจากนี้ยังชอบบท You are what you love. “เพราะทุกสิ่งที่เราเสพและพบเจอในทุกวันสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เพลง หนัง งานศิลปะ และจุดหมายที่เดินทางไป แม้แต่ผู้คนในชีวิตที่เลือกใช้เวลาด้วย เราต้องรอบคอบและกลั่นกรองในสิ่งที่เปิดใจให้ เพราะมันจะหลอมรวมจนกลายมาเป็นตัวตนเราในที่สุด” เราอยากจะเป็นคนแบบไหน จงพาตัวเองหรือรายล้อมตัวเองด้วยสิ่งนั้น หากคุณไม่สามารถเปลี่ยนบางอย่างได้ เช่น สิ่งแวดล้อมในที่ทำงาน ก็สามารถจัดบ้าน จัดเพลย์ลิสต์เพลง จัดรูปภาพในมือถือ จัดการช่วงเวลาว่างให้รายล้อมไปด้วยสิ่งที่เติมพลังดีๆ ให้คุณได้

พบคำตอบของความรัก

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าคุณอาจจะได้พบคำตอบของความรักอย่างที่ซิสพบหลังจากอ่านเล่มนี้ เราอ่านเล่มนี้ในช่วงเวลาที่กำลังมีความรักข้างเดียวค่ะ สับสนว่าควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองอย่างไร ใจหนึ่งก็รู้สึกดี มีพลังบวก อยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน เลยอยากจะสัมผัสความรู้สึกรักครั้งนี้ให้เต็มที่ อีกใจก็กลัวเจ็บเพราะรู้ว่าไม่มีทางสมหวัง เลยพยายามหากิจกรรมมากมายมาทำเพื่อให้เลิกคิดถึงเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าจะทำอะไร หน้าเขาก็ลอยมาอยู่ดี ฮ่าๆ

ในช่วงเวลาที่กำลังสับสนกับความสองจิตสองใจของตัวเอง เราก็พบคำตอบจากข้อความนี้ค่ะ

“ความรักที่ดีแตกต่างจากความรักที่สมหวัง ฉันคิดว่ารักครั้งไหนที่ทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีและน่าภูมิใจมากขึ้น ก็นับว่าเป็นความรักที่ทำให้เติบโต ใครก็ตามที่มอบความกล้าให้กับเรา ก็ย่อมเป็นคนที่มีความสำคัญต่อหัวใจ ไม่ว่าเวลาที่มีร่วมกันจะมากหรือน้อย ความรักแบบที่ฉันรักคือความรักที่เปลี่ยนชีวิต”

วิน นิมมานวรวุฒิ, หนังสือโปรดอย่าใจร้ายกับหัวใจของเธอ

ข้อความสั้นๆ นี้ช่วยสะสางปัญหาที่ค้างคาหัวใจเรามานานหลายเดือนได้ เป็นเหมือนเพื่อนที่มาติดปลาสเตอร์บนแผลกลางหัวใจ ถึงแผลจะยังไม่หายสนิท ยังมีเลือดออกอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกดีที่มีใครสักคน (หนังสือสักเล่ม) มาอยู่เคียงข้างในวันที่รู้สึกเศร้าค่ะ •ᴗ•

⋆。゚☁︎。⋆。 ゚☾ ゚。⋆

คงไม่มีคำสรุปไหนตรงใจไปกว่า “หนังสือเล่มนี้เป็นดังแผนที่ของหัวใจในวันที่หลงทาง เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งความหวัง… และเป็นดังจดหมายรักที่เขียนถึงตัวเองในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุดเพื่อย้ำเตือนว่าเราเข้มแข็งกว่าที่ตัวเองคิด” ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณวินกล่าวไว้ในคำนำ ขอบคุณสำหรับหนังสือดีๆ อีกเล่มจริงๆ ค่ะ

รออ่านเล่มต่อไปเพราะหัวใจดีๆ และเชอร์รีเป็นของเธอไม่ไหวแล้ว~



0 Shares
You May Also Like
รีวิวหนังสือสวรรค์ประทานพร

รีวิวหนังสือสวรรค์ประทานพร : เทพตกอับกับราชาผีคลั่งรัก

'องค์ไท่จื่อเซี่ยเหลียน' ลูกรักของสวรรค์กลับตกอับจนถูกเรียกว่าเทพขยะ แต่ทำไม 'ราชาผีฮวาเฉิง' ผู้ยิ่งใหญ่ถึงมาตามติดเขาต้อยๆ ได้ล่ะเนี่ย

สรุปหนังสือเจ้าชายน้อย: 4 ข้อคิดจากเด็กน้อยที่ผู้ใหญ่คนนี้เคยเป็น

วรรณกรรมอมตะสำหรับผู้ใหญ่ทุกคนที่หวนคิดถึงตัวตนในวัยเยาว์ที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ ความกล้าหาญ ความฝัน และความเชื่อว่าตัวเองทำได้ทุกอย่าง
สรุปหนังสือผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก

สรุปหนังสือผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก : คัมภีร์แห่งการรักตัวเอง

รวม 9 ข้อคิดดีๆ จากหนังสือผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก 💋 ที่จะทำให้คุณหันมาให้เกียรติตัวเองในช่วงเวลาที่หลงรักคนอื่นจนหลงลืมที่จะรักตัวเอง
สรุปหนังสือ ศิลปะการอยู่ร่วมกับคนเฮงซวย

สรุปหนังสือ The Asshole Survival Guide : ศิลปะการอยู่ร่วมกับคนเฮงซวย

คู่มือรับมือคนเฮงซวยที่ช่วยให้เรารักษาชีวิตอันแสนสงบสุขด้วยการตัด “ปัญหาคนเฮงซวย” ทั้งแบบชั่วคราวและเรื้อรังอย่างฉลาดและบาดเจ็บน้อยที่สุด
สรุปหนังสือชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์ (Four Thousand Weeks)

สรุปหนังสือชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์ : 4 ข้อคิดในการบริหารเวลาชีวิต

"เพราะเราไม่ได้มีเวลา แต่เราคือเวลา" เมื่อเวลามีจำกัด แต่เรายังมีสิ่งมากมายบนโลกที่อยากทำ เราจะบริหารเวลาอย่างไรเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย
สรุปหนังสือถึงโมโหก็อย่าสู้กับคนโง่

สรุปหนังสือถึงโมโหก็อย่าสู้กับคนโง่ : 3 วิธีดับความหัวร้อน

อย่าสิ้นเปลืองเวลาและพลังงานไปกับการสู้กับคนโง่เลย เพราะเป้าหมายสำคัญกว่าความสะใจเพียงชั่วคราว มาดูวิธีดับความหัวร้อนจากเล่มนี้กัน